Sunday, October 16, 2011

หญิงงามเมือง (5) -- น 28+




พระตำหนัก 
พระชายา เพลินพิศจิตราลัย



พระชายา เพลินพิศจิตราลัย : แม่นม..เจ้าไปตาม แม่เฒ่า มาพบข้า หน่อยสิ

พิกุลทอง : พระชายา เพคะ..คุณแม่นม ไม่อยู่เพคะ

พระชายา เพลินพิศจิตราลัย : เช่นนั้น พิกุลทอง..เจ้าไปตามแม่เฒ่า ให้พบข้า แล้วกันจ่ะ

พิกุลทอง : เพคะ..พระชายา


***



พระชายา เพลินพิศจิตราลัย :
แม่เฒ่า มาอยุ่ในวังกับหญิง ที่ตำหนักของหญิง
ได้หรือไม่เจ้าคะ

แม่เฒ่า อุไรวรรณา :
แล้ว พระชายา ทรงปรึกษาหารือ กับ พระอัครมเหสี แล้วหรือเพคะ

พระชายา เพลินพิศจิตราลัย :
ยังเลยเจ้าคะ..แต่ เสด็จแม่ ทรงตามใจหญิง อยู่แล้ว..
แม่เฒ่า อย่าได้เป็นกังวลไปเลย..เจ้าคะ

แม่เฒ่า อุไรวรรณา :
เพราะกระไรเพคะ..พระชายา ถึงต้องการให้หม่อมชั้น มาอยู่ด้วยหน่ะเพคะ

พระชายา เพลินพิศจิตราลัย :
หญิง กำลังจักก่อการใหญ่ เจ้าคะ
หญิงต้องการกำลังในการขบคิด
หญิง จึงอยากให้ท่าน มาช่วยหญิงให้สำเร็จลุล่วง หน่ะเจ้าคะ แม่เฒ่า

แม่เฒ่า อุไรวรรณา : ได้เพคะ พระชายา

***



พระตำหนักกลาง 
ที่ประทับ พระอัครมเหสี ทองจันทรา


พระอัครมเหสี ทองจันทรา : ลูกหญิง..เจ้าให้แม่เฒ่า เข้ามาอยุ่ที่ตำหนัก
ทำไมถึงไม่ปรึกษาแม่ สักคำจ้ะ
เดี๋ยวนี้ เจ้าไไม่เห็นแม่อยุ่ในสายตา แล้วหรือจ้ะ ลูกรัก

แม่เฒ่า อุไรวรรณา : พระอัครมเหสี อย่าได้ทรงกริ้ว ไปเลยเพคะ
ในยามนี้ พวกเราควรจักกลมเกลียวกันเข้าไว้นะเพคะ
อีกอย่าง พระนางก็อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงแล้วนะเพคะ
จักทรงกลัวคำครหา ไปไยเพคะ
ในเมื่อพระนางทรงอยู่เหนืออิสตรีทั้งมวล แล้วนี่เพคะ

พระชายา เพลินพิศจิตราลัย :
เสด็จแม่..ลูกขอประทานอภัยอย่างยิ่งเพคะ
แต่ลูกก็ไม่คิดว่า เป็นเรื่องไม่สมควร นี่เพคะ

พระอัครมเหสี ทองจันทรา : 
นี่..ยามนี้ องค์เหนือหัว
ได้ทรงเสียพระทัย เรื่องการสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาท มากเลยนะ ลูกหญิง
เจ้าคิดจักใช้เหตุการณ์ครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์กับเรานะจ้ะ

แม่เฒ่า อุไรวรรณา : จริงอย่างพระนางว่า นะเพคะ 
พระนาง..หม่อมชั้นว่า พระองค์ควรจักเกลี่ยกล่อมให้องค์เหนือหัว
รีบเลือก องค์รัชทายาทพระองค์ใหม่ โดยเร็ววันนะเพคะ
และผู้นั้น หาใช่ใครอื่น..
ผู้นั้น ก็คือ...พระชายาเพลินพิศจิตราลัย เพคะ

พระอัครมเหสี ทองจันทรา : เป็นความคิดที่ดีเยี่ยม
แต่ข้า ว่า คงต้องรอให้การพิธีถวายเพลิงพระศพ ให้เส็จสิ้นไปก่อน
ดีหรือไม่...

พระชายา เพลินพิศจิตราลัย :
เห็นไหมเพคะ เสด็จแม่..ลูกว่า แม่เฒ่าต้องช่วยเราได้จริง ๆ

พระอัครมเหสี ทองจันทรา : จ่ะ..แม่ยอมรับเจ้าแล้ว ลูกหญิงของแม่

***




หลังเส็รจสิ้น งานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพ
องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ 



***


พระอัครมเหสี ทองจันทรา :
 เสด็จพี่..เพคะ..พระองค์ทรงเสวยน้ำจันทร์ มากไปแล้ว ไหมเพคะ

ท้าววิเรณสูรย์ : เจ้าไม่ต้องมายุ่ง...กับข้า..ออกไป เสีย น้องหญิง..

พระอัครมเหสี ทองจันทรา :
เสด็จพี่ เพคะ..ถึงพระองค์จักทรงเสวยน้ำจันทร์ จนหมดโลกนี้
รัชทายาท ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีวิต มาได้นะเพคะ
อย่าลืมว่า แผ่นดินนี้ ยังต้องการพระองค์นะเพคะ
หรือพระองค์ไม่รักน้องกับลูกแล้วหรือเพคะ

(ท้าววิเรณสูรย์ เหมือนจักทรงคิดได้ว่า 
พระองค์ไม่ได้อยู่องค์เดียว 
พระองค์ยังทรงมีพระนัดดา อีกองค์)

ท้าววิเรณสูรย์ : พี่ขอบใจน้องหญิง ทองจันทรา มากเลยนะจ้ะ
พี่ขอโทษจริง ๆ ..พี่จักไม่เห็นแก่ตัว ตัดช่องน้อยแต่พอตัวอีกแล้วจ่ะ คนดีของพี่

พระอัครมเหสี ทองจันทรา :
เสด็จพี่..น้องขอขอบพระทัยเพคะ
ฮือ ๆๆ


***


7 วันต่อมา
ท้าววิเรณสูรย์ ทรงมีพระราชบัญชา แต่งตั้ง
พระชายา เพลินพิศจิตราลัย
ในองค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ 

ขึ้นดำรงตำแหน่ง พระราชกัลยา
ซึ่งเทียบเท่า องค์รัชทายาท

ทรงพระนามใหม่ว่า
เจ้าหญิงเพลินพิศจิตราลัย สายสินีนารถ พัชรราชกัลยา

สายสินี คือ ราชสกุลแห่งพระนาง
นารถ แปลว่า ที่พึ่ง
พัชรราชกัลยา คือ พระอิสริยยศ ในองค์รัชทายาท แห่งพัชรปุระ

***

มีข้าราชบริพาร มากมาย ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน
มาร่วมพระราชพิธีครั้งนี้ อย่างล้นหลาม

เหล่าอำมาตย์ และขุนนางใหญ่น้อย :
ขอพระนาง ทรงพระเจริญ
ขอพระนาง ทรงพระเจริญ
ขอพระนาง ทรงพระเจริญ....

***









เมืองอรุโณทัยปุระ


เจ้าหญิงแก้วกุดั่นวรรณไฉไล :
เสด็จพ่อเพคะ..สายลับของเรารายงานมาว่า
บัดเดี๋ยวนี้ เมืองพัชรปุระ ได้ไร้องค์รัชทายาท อีกต่อไปแล้ว
หากพวกมันกลับยกย่องเชิดชูอิสตรี ขึ้นเป็นว่าที่กษัตริย์พระองค์ต่อไป
ช่างน่าสมเพช..เสียนี่กระไร
ก็เท่ากับว่า..นับจากนี้ไป พวกเราต้องร่วมมือกับ อศิรสิงขรปุระ (อะ-สิ-ระ-สิง-ขอน)
เข้าต่อตียึดครองเมืองของพวกพัชรปุระ ได้โดยง่ายนะเพคะ


ท้าวอนิรุทเทวา : ลูกหญิง..พ่อจักแก้แค้นให้เจ้า
ที่พวกพัชรปุระ มันกล้าผิดคำพูด..พวกมัน จักได้รับกรรม อย่างสาสมที่สุด
พ่อสัญญาจ่ะ ลูกรัก


เจ้าหญิงแก้วกุดั่นวรรณไฉไล :
ขอบพระทัยเสด็จพ่อเพคะ
เราจักได้เห็นดีกัน..เจ้าหญิงแห่งพัชรปุระ
ข้า จักให้เจ้ามาเป็น..ข้าไท ของข้าให้จงได้  555


***





พระตำหนักใหญ่
ที่ประทับ ท้าววิเรณสูรย์


ราชทูต แห่งอรุโณทัยปุระ : ข้าพระองค์ เป็นราชทูต แห่งอรุโณทัยปุระ
ถือราชสาสน์ มาแสดงความเสียพระทัย ในการเสียองค์รัชทายาท แห่งพัชรปุระ
พร้อมกับ ถือราชสาสน์แสดงความยินดี กับองค์รัชทายาท พระองค์ใหม่
ด้วยพระเจ้าข้า...

ท้าววิเรณสูรย์ : ข้ารู้สึกปลาบปลื้มยินดีที่องค์เหนือหัวแห่งอรุโณทัย
ทรงมีน้ำพระทัยอัยเปี่ยมล้นด้วยไมตรีจิต จะผูกสัมพันธ์ อันดีเป็นบ้านพี่เมืองน้อง
จริง ๆ..เราฝากขอบพระทัยถึง พี่ท่าน...อีกครานะ ท่านราชทูต


ราชทูต แห่งอรุโณทัยปุระ : หามิได้พระเจ้าข้า...
หากมีสิ่งหนึ่งก็คือ..ทางองค์เหนือหัวของเรา ต้องการให้ พระธิดา พระองค์เดียวของพระองค์
เสด็จไปเป็น..แม่เมืองแห่งอรุโณทัยปุระ ได้หรือไม่


ท้าววิเรณสูรย์ : ท่านราชทุต..ท่านกล่าวผิดไปหรือไม่
ข้า มีพระธิดาเพียงพระองค์ ซึ่งก็คือ องค์รัชทายาท พระองค์ปัจจุบัน
หากข้ายกนางให้ ก็เท่ากับว่า..ข้า ยอมเป้นเมืองขึ้น แก่ อรุโณทัย นะสิ
ข้า หาได้เคยมีความคิดเยี่ยงนั้น แม้แต่น้อย
ท่านจงกลับไปรายงาน เหนือหัวของเจ้าว่า..
ข้า จักยอมเปิดศึก เสียดีกว่า ต้องยอมเป็นประเทศราช แก่ผู้ใด
เมืองของข้า ก็มีคนเก่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า เมืองของเจ้า ดอกนะ
ท่านราชทูต...

ราชทูต แห่งอรุโณทัยปุระ : เราจักได้เห็นดีกันเป็นแน่แท้
พระเจ้าข้า...องค์เหนือหัว

ท้าววิเรณสูรย์ : ข้า พร้อมรับคำท้า ทุกเมื่อ
จงไสหัว กลับไปบอกนายของเจ้า ตามนี้
ไปสิ...ไอ้พวกอรุโณทัย

***




พระตำหนักกลาง 
ที่ประทับ พระอัครมเหสี ทองจันทรา




ท้าววิเรณสูรย์ : น้องหญิง..เจ้าต้องรีบเตรียมการคนของเราให้พร้อมรับศึก ทุกเมื่อ
นะจ้ะ...คนดีของพี่
ถึงแม้ว่า พี่จักแก่แล้ว...แต่พี่ก้จักมิยอมตกเป็นเมืองขึ้นของผู้ใดทั้งสิ้น


พระอัครมเหสี ทองจันทรา : น้องทราบดีเพคะ
ว่า เสด็จพี่ทรงเป็นคนที่ยอมหัก มิยอมงอ เด็ดขาด


ท้าววิเรณสูรย์ : เจ้าต้องพาคนของเรา ไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย
หากข้าศึกมาประชิดเมืองเมื่อใด พี่จักให้สัญญาณ แก่เจ้าอีกคราน้ะจ้ะ
หากพี่ ตายในสนามรบ..คนที่จักดูแลคนของเรา ก็คือ..เจ้า รู้ไหม
น้องหญิงของพี่...

พระอัครมเหสี ทองจันทรา : น้องทราบดี เพคะ เสด็จพี่..
อย่าได้ทรงเป็นกังวล

***



พระตำหนัก 
องค์รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย


รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : ลูกของข้า จักต้องปลอดภัยนะ แม่เฒ่า
ข้า ขอฝากพระโอรส ด้วยนะเจ้าคะ
หาก ข้าตายไป แต่ท่านต้องอยู่รอด ต่อไป นะเจ้าคะ
ท่านสัญญาได้หรือไม่ เจ้าคะ
หากข้า ไม่ตาย..สักวัน ข้าจักมารับ ลูกชายของข้า..

นี่ แม่เฒ่า...นี่คือแหวนของข้า ข้ามอบไว้ให้กับ พระโอรส
ขอให้ท่านมอบแก่เขา ในวันที่เขาครอบรอบ 20 ชันษา นะเจ้า

ส่วนทรัพย์สมบัติ บางส่วน ข้าให้บ่าวไพร่ นำไปเก็บรักษาไว้ที่ปลอดภัย 
แล้วนะเจ้าคะ แม่เฒ่า



แม่เฒ่า อุไรวรรณา : รัชทายาท เพคะ..อย่าได้ทรงเป็นห่วง พระโอรสนะเพคะ
ยามนี้ พระองค์จักต้องทรงเข้มแข็งเอาไว้นะเพคะ
ถึงแม้น พระองค์มีอันตราย ก็ขอให้ทรงใช้สติปัญญาที่มีอยู่ แกไขสถานการณ์
นะเพคะ..แล้วอย่าลืม วิชชาความรู้ที่หม่อมชั้น ได้อบรมให้นะเพคะ

ดวงพระชาตา ของพระองค์กำลังจักต้องก้าวลงสู่จุดอับที่สุด ของชีวิต
ขอให้พระองค์ รักษาเนื้อรักษาตัว
ขอให้จดจำไว้ว่า..ความตาย เป็นสิ่งไร้ประโยชน์
เมื่อเทียบกับการยอมจำนน เพื่อรอโอกาสแก้แค้นนะเพคะ

ถึงแม้น วันนี้พระองค์จักทรงเป็นรอง พวกมัน
หากพระองค์มิตาย ก็ขอให้จดจำทุกภาพ ทุกการกระทำอันอัปรีย์ของพวกมัน
ให้แม่นยำ..นะเพคะ

นี่ก็คือ คำสั่งสอนสุดท้าย ของแม่เฒ่า เหมือนกันเพคะ


****




3 เดือนต่อมา


พระตำหนักใหญ่
ที่ประทับ ท้าววิเรณสูรย์


ท้าววิเรณสูรย์ : ลูกหญิง..ยามนี้..ศึกมาประชิดพระนครแล้ว
เจ้าต้องหนี ก่อนนะ...พ่อเป็นห่วงแม่ และเจ้า รวมถึงหลานของพ่อด้วย

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : ไม่..เพคะ เสด็จพ่อ
ลูกจักออกไปช่วยเสด็จพ่อรบ
ลูกหาได้หวั่นเกรงข้าศึก แม้แต่น้อย
เสด็จพ่อ อย่าได้ห้ามลูกเลยนะเพคะ

ท้าววิเรณสูรย์ พ่อภูมิใจ..ในตัวเจ้ามากเลยนะ 
แต่เจ้าเป็นหญิง..จะเอาอันใด ไปต่อกร กับพวกข้าศึกได้เล่า
หากเจ้าไม่ยอมหนี ไปกับแม่ของเจ้า
เช่นนั้น..พ่อขอสั่งให้เจ้า..จงอยู่รักษาการณ์ ภายในกำแพงวัง
จงอย่าได้คิดออกไป..ต่อตี กับข้าศึกเป็นอันขาด

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : แต่..ลูกเป็นห่วงเสด็จพ่อ นะเพคะ

ท้าววิเรณสูรย์ : นี่คือ..พระบัญชาแห่งองค์เหนือหัว
เจ้าจงอย่าได้ขัดขืนคำสั่งของพ่อนะ..ราชกัลยา..


รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : ลูกจักเชื่อพระองค์เพคะ..

***




ครึ่งเดือน ต่อมา


ทหารวัง รักษาพระนคร :
ขอพระองค์ ขอถวายรายงาน แด่องค์รัชทายาท
บัดนี้...ขออย่าให้พรองค์ทรงตกพระทัย ไปนะพระเจ้าข้า
เนื่องด้วย องค์เหนือหัว ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัส
และกำลังจักถูกส่ง เข้ามารักษาภายในวังหลวง
แล้วพระเจ้าข้า...

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย :
แล้วหมอหลวง..เตรียมการรักษา องค์เหนือหัวแล้วใช่หรือไม่

ทหารวัง รักษาพระนคร : ท่านหมอหลวง..รับทราบความนี้แล้ว พระเจ้าข้า
และกำลังเตรียมการรักษาอยู่..พระเจ้าข้า

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : 
ข้าขอขอบใจ เจ้ามาก..ไปเถิด

ทหารวัง รักษาพระนคร : พระเจ้าข้า..องค์รัชทายาท
ข้าพระองค์ ขอทูลลา

***




พระตำหนักใหญ่
ที่ประทับ ท้าววิเรณสูรย์



หมอหลวง อรุณฤทธา : ขอพระองค์ ทรงทนเจ็บสักประเดี๋ยวนะพระเจ้าข้า
ข้าพระองค์กำลังจักนำกระสุน ออกจากพระอุระ


ท้าววิเรณสูรย์ ย้ากกกกกกกกกกก....อู้วววววว


****


หมอหลวง อรุณฤทธา : ข้าพระองค์ขอประทานอภัย พระเจ้าข้า
องค์รัชทายาท...ความจริงก็คือ องค์เหนือหัวทรงมีพระชันษามากแล้ว
..พระ..องค์...อาจจักมิสามารถ ทนพิษบาดแผลฉกรรจ์ เช่นนี้ได้นะพระเจ้าข้า
ขอให้พระองค์ทรงทำพระทัย ให้สงบด้วยนะพระเจ้าข้า

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : จริงหรือ..ท่านหมอหลวง
แล้วข้า ควรจักต้องส่งข่าวถึงเสด็จแม่ให้ทรงทราบ ดีหรือไม่

หมอหลวง อรุณฤทธา : แล้วแต่จักทรงโปรด พระเจ้าข้า
แต่ในความคิดของข้าพระองค์ เห็นว่า..
เพลานี้ พระองค์ควรจักทรงเตรียมการเสด็จหนีออกจากพระนคร 
ดีกว่าหรือไม่พระเจ้าข้า...

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : ท่านหมอหลวง..เราอยากให้ท่านพาเสด็จพ่อ
หนีไปก่อนได้หรือไม่
ไม่นานเกิน 7 วัน...ข้า ว่า พวกข้าศึกต้องล้อมวังหลวง ได้เป็นแน่

หมอหลวง อรุณฤทธา :
แต่องค์เหนือหัว..ทรงมีพระอาการสาหัสมากเลยนะ พระเจ้าข้า
ข้าพระองค์เห็นว่า..พระองค์อาจจักมิรอดเกิน 3 เพลานับจากนี้

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย : เช่นนั้น...เราฝากท่านหมอหลวง
ให้ไปส่งข่าว เรื่องงานพระบรมศพ แก่เสด็จแม่ ด้วยเถิดนะ
***



3 วัน ผ่านไป

พระอาการของท้าววิเรณสูรย์ มีแต่จะทรุดลงเรื่อย ๆ 
และในเช้าวันถัดไป ก็เสด็จสู่สวรรคาลัย
องค์รัชทายาท ได้แต่จัดงานถวายเพลิงพระบรมศพ
แบบลวก ๆ โดยมีพระอัครมเหสี และเชื้อพระวงศ์สนิท เท่านั้น

ทันใดนั้นเอง

ทหารวัง รักษาพระนคร : แย่แล้ว..แย่แล้ว พระเจ้าข้า...พวกข้าศึกมัน...ย้าก

(เขาโดนธนูจากนอกกำแพงวัง ปักเข้าที่ศีรษะ อย่างจัง
จึงทำให้สิ้นใจล้มลง ต่อหน้าทุกคน)

พระอัครมเหสี ทองจันทรา : เราจักทำเยี่ยงใดกันดีเล่า..ลูกหญิง

รัชทายาท เพลินพิศจิตราลัย :
ทหารองครักษ์..คุ้มครองเสด็จแม่ หนีออกทางอุโมงค์ลับ
เร็วเข้า..อย่ามัวช้าจักเสียการ
ส่วนทางนี้..เราจักรับหน้าไว้เอง

ทหารองครักษ์ 1 : พระเจ้าข้า..รัชทายาท
เชิญเสด็จ พระเจ้าข้า..พระอัครมเหสี..

พระอัครมเหสี ทองจันทรา : เจ้าต้องดูแลลูกข้าให้ดีนะ

ทหารองครักษ์ 2 : พระเจ้าข้า..พระนาง

***

No comments:

Post a Comment