Wednesday, October 26, 2011

หญิงงามเมือง (9) -- น 28+


หอนางห้าม
แห่งอศิรสิงขรปุระ


ท้าวประพรมชัย : คุณท้าวฝ่ายใน เจ้าจงนำนางงามทั้งพันนาง
ออกมาให้แขกเหรื่อของข้า ได้ยลโฉมทีเถิด
พวกท่านทั้งหลายคงจักต้องการเริ่มการบรรเลงกามคณะ 
แล้วเป็นแน่แท้ 555


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : เพคะ องค์เหนือหัว
หม่อมชั้นได้พาพวกนางมาพร้อมเพรียงกันแล้วเพคะ


ท้าวประพรมชัย : พวกท่านบุรุษทั้งหลาย
ข้า..ท้าวประพรมชัย ขอนำเสนอความหฤหรรษ์แห่งหอนางห้าม
แห่งเรา..ท่านทั้งหลายสนุกสุดชีวิต กับเหล่านางห้ามแห่งข้า
ได้ ณ บัดนี้


เจ้าชายมาซายะ แห่งญี่ปุ่น : สาวงามแห่งหอนางห้ามของพระองค์
ช่างงามสมคำร่ำลือ เสียจริงนะขอรับ
จนข้าเลือกไม่ถูกแล้ว 


ท้าวประพรมชัย : เชิญเจ้าชายทรงเลือกให้พอพระทัยเถิด
แต่อย่าได้ทรงหัดโหมไปนักเล่า
เพราะท่านยังต้องอยู่ที่ อศิรสิงขร ไปอีกหลายเพลานะท่าน


เจ้าชายมาซายะ แห่งญี่ปุ่น : ขอพระทัย ที่พระองค์ทรงเป็นห่วงข้า 
แต่เรื่องเช่นนี้ ชายชาตรีเยี่ยงข้า ถึงไหนถึงกันอยู่แล้วขอรับ
555..
มามะ มาใกล้ข้า เร็วเข้าสิ แม่สาวน้อย


ท้าวประพรมชัย : สมกับที่เป็น..โอรสแห่งแดนอาทิตย์อุทัย จริงเทียว
เชิญ เชิญ..ท่านทั้งหลายตามแต่ใจปรารถนา ได้เลย
555555555

แล้วไหนเล่า..แม่สาวชาวป่าของข้า อยู่แห่งใดกัน คุณท้าว..


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : มาแล้วเพคะ...


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : ถวายพระพร..องค์เหนือหัว เพคะ


ท้าวประพรมชัย : งามมาก..เจ้าเหมือนบุปผา แรกแย้ม
ไหน เข้ามาใกล้ข้า หน่อยสิจ้ะ แม่นาง..
เจ้ามีชื่อว่ากระไรรึจ้ะ โฉมงามของข้า


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : แพรวพิศ..เพคะ พระองค์


ท้าวประพรมชัย : ชื่อช่างไพเราะ เหมาะเจาะกับใบหน้าอันงามงด ของเข้ายิ่งนัก
แม่หญิงแพรวพิศ..ปีนี้เจ้าอายุ เท่าใดแล้วรึจ้ะ คนงามของข้า


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : อายุ 16 ปี แล้วเพคะ...


ท้าวประพรมชัย : แล้วเจ้าอยากมาเป็นคนรู้ใจของข้า..เพียงผู้เดียว
เจ้าจะว่ากระไรหรือไม่จ้ะ แม่สาวน้อย



(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น..เป็นเพียงสาวชาวบ้านป่า
เกรงว่า อาจจักทำให้พระองค์เสื่อมเสีย นะเพคะ..


ท้าวประพรมชัย : ข้าอายุ เกือบ 50 แล้วนะจ้ะ..
เจ้าคงจะรังเกียจชายแก่อย่างข้า เป็นแน่แท้เทียว
แม่คนงาม


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น..
มิกล้าปฏิเสธความเอ็นดูของพระองค์ แม้แต่น้อยเพคะ


ท้าวประพรมชัย : ดีเลย..เป็นอันว่าเจ้าตกลงในคำขอ ของข้า แล้วนะจ้ะ
แม่หญิงคนงาม
วันพรุ่งข้า จักแต่งองค์ รอเจ้าที่ตำหนักเล็กของข้า นะจ้ะ คนดี

แต่ว่า..คืนนี้..เจ้าจงกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด
ข้า รอได้..เพียงแค่วันเดียว
555


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น..ขอพระทัย
ที่พระองค์ ทรงเมตตายิ่งแล้วเพคะ


ท้าวประพรมชัย : ก่อนกลับ..ข้าขอหอมเจ้าแรง ๆ สักที
เป็นค่ามัดจำได้หรือไม่จ้ะ
มาเร็ว..เข้ามาใกล้ ๆ ข้าทีสิจ้ะ
ฟอด ๆๆ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : พระองค์..ไหนว่า ทีเดียว เพคะ..
แก้มหม่อมชั้น..ช้ำหมดแล้วเพคะ


ท้าวประพรมชัย : ก็เจ้า..งามจนข้า เกินห้ามใจนะสิจ้ะ
แพรวพิศ...ข้า พึงใจในตัวเจ้า ตั้งแต่แรกเห็นแล้ว รู้ไหมจ้ะ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น..ทูลลากลับเรือนก่อนนะเพคะ


****



ค่ำของวันต่อมา
ณ ตำหนักเล็กของท้าวประพรมชัย



ท้าวประพรมชัย : เจ้ามาแล้วนะหรือ แม่คนดีของข้า


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : เพคะ..


ท้าวประพรมชัย :  เจ้าใช้น้ำปรุงที่ข้า จัดไปให้หรือไม่จ้ะ คนดี..


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย :  เพคะ..


ท้าวประพรมชัย :  แล้วผ้าแพรที่ข้า สั่งคนเอาไปให้
เจ้าถูกใจหรือไม่จ้ะ แม่คนงาม


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย :  ถูกใจมากเลยเพคะ..ขอบพระทัยพระองค์มากนัก


ท้าวประพรมชัย : 
แพรวพิศ..เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่า เจ้างามกว่ามเหสีทุกองค์ของข้า 
เจ้าอยากจะมาอยู่ใน หนึ่งในตำหนักของข้า หรือไม่จ้ะ คนดี


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : จะดีหรือเพคะ
หม่อมชั้น ด้อยการศึกษา..จะทำให้เสียพระเกียรติ ได้นะเพคะ


ท้าวประพรมชัย :
ไม่ผิดดอก..ที่จะไร้การศึกษา..
ขอให้นางมีใจรักแล ภักดีต่อข้า ผู้เดียว
ผู้ใดในปฐพี่นี้ ก็หาได้กล้าดูหมิ่นเจ้าแม้แต่น้อย เลยจ่ะ คนดีของพี่

อย่าว่าแต่ตำแหน่งพระสนมเลย..
หากข้า พึงใจจักให้เจ้าถึงที่ พระอัครมเหสี
ก็ย่อมเป็นไปได้จ่ะ แม่คนงามของพี่


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น หาได้กล้าอาจเอื้อมถึงเพียงนั้นเพคะ
ขอแค่ได้อยู่รับใช้พระองค์ตลอดไป ก็เป็นการดีสำหรับหม่อมชั้น แล้วนะเพคะ
เสด็จพี่...

****


ท้องพระโรง แห่งอศิรสิงขรปุระ 

ท้าวประพรมชัย : ที่ข้า..เรียกพวกท่านทั้งหลายมาประชุมกัน ณ
ท้องพระโรง ในวันนี้..ก็เพื่อที่จักประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า
ข้าจักแต่งตั้งพระสนม องค์ใหม่...

มหาอำมาตย์ สันชัย พระนางคือผู้ใดกัน...พระเจ้าข้า
องค์เหนือหัว..ช่างเป็นข่าวที่น่ายินดียิ่งแล้ว พระเจ้าข้า

ท้าวประพรมชัย : นางห้าม..แพรวพิศ..

มหาอำมาตย์ สันชัย พระองค์ทรงคิดดีแล้วแล้ว หรือพระเจ้าข้า
ตามกฎมนเทียรบาลของเรา หาได้เคยมีมาก่อน

ท้าวประพรมชัย : สิ่งที่อยู่ในมือของข้า ก็คือ กฎมนเทียรบาล ฉบับใหม่
ที่ข้าปรึกษาเหล่าเชื้อพระวงศ์แล้วว่า..หาได้ผิดจารีตไม่

มหาอำมาตย์ สันชัย พระองค์..แต่ถึงกระนั้น ก็อาจจักเป็นที่ครหา ได้หนาพระเจ้าข้า
พระองค์มิทรงเลือกพระสนมพระองค์ใหม่ จากบุตรีของเสนาอำมาตย์สักหน่อยหรือ
พระเจ้าข้า...

ท้าวประพรมชัย : อย่าได้ทัดทาน..ข้าอีกเลย ท่านมหาอำมาตย์

มหาอำมาตย์ สันชัย องค์...เหนือหัว...

ท้าวประพรมชัย : ข้าขอประกาศราชโองการ..แห่งข้า
มีบัญชาให้แต่งตั้ง นางห้ามแพรวพิศ ขึ้นดำรงตำแหน่ง
พระสนม..แห่ง..พระตำหนัก บุษบาบงกช
ทรงพระนามว่า แพรวพิศพรรณราย
มีนางข้าไท 1000 นาง คอยดูแลพระนาง
พระราชทานผ้าไหมแพรพรรณ อีก 500 พับ
จบราชโองการ

***


10 วันให้หลัง
ท้าวประพรมชัย ทรงมีพระบัญชาให้จัดงานฉลองพระสนมใหม่
ณ พระที่นั่งประพรมพรวิถีปุระนาถภิรมย์
ในพระราชอุทยานหลวง


ท้าวประพรมชัย : วันนี้..เจ้าช่างงามที่สุด ในตำหนักแห่งนี้
น้องหญิงของพี่...
เจ้ามาใกล้ ๆ พี่สิจ้ะ คนดี...พี่มีของกำนัล จักมอบให้
เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเจ้า..สืบไป

แพรวพิศพรรณราย (เพลินพิศจิตราลัย) : กระไรหรือเพคะ เสด็จพี่

ท้าวประพรมชัย : 
สิ่งนี้..ก็คือ..อัญมณี เลอค่า..มันช่างคู่ควรกับความงามของเจ้า
มันเป็นสิ่งที่เสด็จทวดของข้า..มอบให้แก่ข้า มานานแล้ว

แพรวพิศพรรณราย (เพลินพิศจิตราลัย) : สิ่งสวยงามเยี่ยงนี้...
งามเกินกว่าที่หม่อมชั้น จักรับไว้ได้เพคะ

ท้าวประพรมชัย : พี่มอบไว้แก่เจ้า..เพราะว่าพี่รักเจ้าที่สุด จงจำคำพี่ไว้นะจ้ะ
แพรวพิศ..ยอดรักของพี่

แพรวพิศพรรณราย (เพลินพิศจิตราลัย) : ของเลอค่าเช่นนี้..มีชื่อเรียกหรือไม่เพคะ

ท้าวประพรมชัย : 
หาได้มีไม่...มันเป็นของเจ้าแล้ว พี่อนุญาตให้เจ้าตั้งชื่อเรียก
ตามแต่ใจเจ้าเถิด ยอดรัก

แพรวพิศพรรณราย (เพลินพิศจิตราลัย) : 
หม่อมชั้นขอเรียก อัญมณีนี้ว่า..มรกตมณีนาถ..เพคะ
เพื่อรำลึกถึง พระสวามีอันเป็นที่รักยิ่งของหม่อมชั้น
ได้มอบสิ่งล้ำค่านี้แก่หม่อมชั้นหน่ะเพคะ...

ท้าวประพรมชัย : เจ้านี่..ช่างหยอดคำหวานให้กับข้า อยู่เรื่อยเลยนะจ้ะ

แพรวพิศพรรณราย (เพลินพิศจิตราลัย) : หาได้มดเท็จนะเพคะ
เป็นความรู้สึกจากเบื้องลึกของน้องจริง ๆ เพคะ เสด็จพี่...

***

Friday, October 21, 2011

หญิงงามเมือง (8) น 28+


1 เดือน ต่อมา


หัวหน้าโจร อัคคีทมิฬ : น้องเพลิน ของพี่..พี่ต้องไปปล้นสดมภ์ อีกแล้ว

พี่รู้สึกว่า คราวนี้ คงจักไม่อาจกลับมาหาเมียรักของพี่ได้อีก


เพลินพิศจิตราลัย : อย่ากังวลไปเลยจ้ะ พี่อัคคีของน้อง
น้องเชื่อในความเก่งกล้าของพี่นะจ้ะ
พี่ไปเถิด...น้องอยู่ข้างหลังจักขอพรให้พี่ กลับมาอย่างปลอดภัยนะจ้ะ


***


เพลินพิศจิตราลัย : พี่หิน...อย่าลืมแผนการที่เราวางไว้นะจ้ะ

รองหัวหน้าโจร หินชาติ : ได้จ่ะ...น้องต้องได้ทุกสิ่งที่ต้องการแน่นอน
พี่ยอมทำทุกอย่างเพื่อจะให้เจ้าพอใจ
ขอเพียงอย่างเดียว คือพี่ต้องได้ครอบครองเจ้าตลอดไป นะจ้ะ

เพลินพิศจิตราลัย : จ่ะ...พี่หินของเพลินพิศ
นางคิดในใจว่า อย่างเจ้านะหรือ..อย่างมากก็เป็นแค่ เครื่องระบายยามเหงา
ไอ้โง่...จงตายพร้อมกับ นายของเจ้าเถิด...555

***


7 วันต่อมา


ลูกน้องโจร : นายหญิงขอรับ...หัวหน้า..ท่านได้ตายแล้ว เพราะอาหารเป็นพิษ 
รองหัวหน้า ท่านให้ข้าน้อย มากราบเรียนนายหญิงก่อนนะขอรับ

เพลินพิศจิตราลัย : ขอบใจ เจ้ามาก...ไปได้


***


พ่อค้า วาสุครี : รัชทายาท...จักให้พวกเราลงมือตอนไหนดี พระเจ้าข้า

เพลินพิศจิตราลัย : ตอนที่พวกมัน...นำศพเจ้านายของพวกมันมาถึง 
ปากทางเข้าคุ้มโจรแห่งนี้นะสิ
เจ้าบอกคนของเจ้า ไว้แล้วใช่หรือไม่

ข้าจักให้พวกมัน ตายอย่างเขียด...555


***

3 วันให้หลัง


ลูกน้องโจร : นายหญิงขอรับ...แย่แล้ว มีทหาร..จากที่ใดก็หารู้ไม่
เข้ามาล้อมดักยิงพวกเรา ตายจนเกือบหมดนะขอรับ
รวมถึง รองหัวหน้า..ด้วยขอรับ

เพลินพิศจิตราลัย : เจ้าจงไปบอกลูกน้องของเราทุกคน อย่าได้ตื่นตระหนก...
ข้า จักคุมสถานการณ์ไว้เอง ไปบอกพวกมันตามนี้ เร็วเข้า...

ลูกน้องโจร : ขอรับ..นายหญิง


***


เพลินพิศจิตราลัย : เจ้าทำได้ดีมาก...วาสุครี...
บัดนี้....ข้า ก็จักได้เป็นใหญ่ แต่เพียงผู้เดียว 555


ลูกน้องโจร : นายหญิงขอรับ...แย่แล้ว มีทหารบุกเข้ามายังคุ้มของเราแล้วขอรับ


เพลินพิศจิตราลัย : ฮ่ะ...ว่ากระไรนะ
เป็นทหารจริง ๆ นะหรือ
เจ้าพอจักรู้หรือไม่ ว่า เป็นทหารเมืองใด


พ่อค้า วาสุครี : 555...นังแพศยา...ข้า ช่างโง่เขลาเสียจริง
น้ำหน้าอย่างเจ้านะหรือ..จักเป็นถึง องค์รัชทายาทแห่งพัชรปุระ
เอาองค์เหนือหัวมาพูด ข้าก็หาได้เชื่อเจ้าไม่ 555

ทหารจับนังคนร้อยเล่ห์ เอาไว้เร็วเข้า
ข้าจักนำตัวนางไปถวายแด่ ท้าวประพรมชัย แห่งอศิรสิงขรปุระ
ข้าว่า พระองค์จักต้องพอพระทัยในรูปโฉมของนาง เป็นแน่ 555


เพลินพิศจิตราลัย : ถุย...ข้า ว่า ไอ้คนร้อยเล่ห์ น่าจักเป็นเจ้ามากกว่านะ 
ไอ้คนสารเลว...ข้าอุตส่าห์ไว้ใจเจ้า ทุกอย่าง
แต่เจ้ากลับหักหลังข้า....เจ้าจงจำไว้ว่า...สักวัน เจ้าต้องได้รู้สำนึกที่ทำผิดไว้กับข้า...


***


หอนางห้าม
แห่งอศิรสิงขรปุระ


ท้าวประพรมชัย : นี่ละหรือ...หญิงงามที่เจ้าจับตัวมาจาก คุ้มโจรกลางป่า
นางช่างงาม....เกินกว่าหญิงใดในวังของข้า 5555
คืนนี้ละ...ข้าจักได้ดอมดม กลิ่นกายของนางเสียทีสินะ
ข้าชักอดใจไม่ไหว แล้วละสิ
ตั้งแต่ที่เจ้ามีจดหมายเล่าเรื่องของนางให้ข้าฟัง
ข้าก็อดใจที่อยากจักเห็นหน้านางสักครั้งไม่ได้

แต่ข้า ก็เคยได้ยินข่าวการหายตัวไปของพระสนมองค์หนึ่งของ เจ้าพี่อนิรุทเทวา
อยู่เหมือนกันนะ
แต่ก็ช่างมันเถิด ก็ในเมื่อนางอยู่ในมือของข้าแล้ว
ข้าก็จักชื่นชมให้หน่ำใจ เสียหน่อยเถิด
เจ้าว่า นางงามดั่งเทพอัปสรา บนศิลาแลง นั้นหรือไม่ เจ้าพ่อค้า...


พ่อค้า วาสุครี : งามมากเลยพระเจ้าข้า....

ท้าวประพรมชัย : ทหาร..เจ้าจงพาแม่นางผู้นี้ ไปยังเรือนนางห้าม
เพื่อให้คุณท้าวฝ่ายใน เธอจัดแจงอาบน้ำอาบท่า
ประพรมน้ำปรุงให้แก่นาง
เพื่อข้า...ในค่ำคืนนี้
555

ทหารยาม : พระเจ้าข้า..องค์เหนือหัว

***




เรือนนางห้าม


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : แม่นางผู้นี้นะหรือ..ที่เป็นเมียของขุนโจร 
ผู้โหดร้าย..ไล่ฆ่าฟันผู้คน ไปนับพัน..
ช่างไม่เหมาะเสียจริง ๆ...นางช่างดูมีสง่าราศี เกินไปกว่าแค่เมียโจร

แต่ถึงอย่างใด..ก็ไม่พ้นการเป็น..นางห้าม


เพลินพิศจิตราลัย : นางห้าม..มีหน้าทีกระไรรึ คุณท้าว


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : เจ้าคงจักเป็นคนบ้านป่า
จึงหาได้เข้าใจในกระนบธรรมเนียมในวังละสิจ้ะ แม่หนู

เพลินพิศจิตราลัย : เจ้าคะ...ท่านช่วยบอกข้า สักหน่อยเถิดจ้ะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : เจ้าช่างน่าสงสาร เสียจริง
แม่หนูคนงาม...
นางห้าม ก็มีหน้าที่คอยปรนเปรอสวาท แก่กษัตริย์ แลเชื้อพระวงศ์
หมายรวมไปถึง..แขกบ้านแขกเมือง อย่างใดจ้ะ แม่หนูน้อย


เพลินพิศจิตราลัย : ก็ไม่ต่างจาก..โสเภณี นะสิเจ้าคะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : อุ๊ย..ตายแล้ว...แม่หนู
เหตุใด..เจ้าถึงได้ปากดี เยี่ยงนั้น
นางห้าม..เป็นนางกลางเมือง ก็จริง
แต่ก็หาว่า...คนทั่วไปจักได้รับการปรนนิบัติจากนางนะจ้ะ
ถ้าหาก..องค์เหนือหัว หาได้ทรงอนุญาต ลงมาหน่ะจ่ะ


เพลินพิศจิตราลัย : เจ้าคะ...ข้า เข้าใจแล้ว
(นางคิดในใจว่า โชคชะตาของนาง คงจักถึงจุดต่ำสุดของชีวิต
แล้วเป็นแน่...ข้าเป็นถึงเจ้าหญิงผุ้สูงศักดิ์
สามารถผลักดันตัวเอง ให้ขึ้นสู่ตำแหน่งว่าที่แม่เมือง แล้วเชียว
ไม่ได้..นางจักต้องใช้วิชชาความรู้ และมารยาหญิง
ร้อยเล่มเกวียน..นำสิ่งที่เคยเป็นของนางกลับคืนมาให้จงได้)


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : มาลงอาบน้ำปรุง...สิจ้ะ
นี่คือ แบบฉบับของชาวอศิรสิงขร เลยนะจ้ะ แม่หนู
ผิวเจ้าช่างเนียนมากเลยนะจ้ะ
ข้าขอถามสักหน่อยนะจ้ะ
เจ้าเป็นชาวบ้าป่า จริง ๆ นะหรือ


เพลินพิศจิตราลัย : จริงเจ้าคะ...ข้าเกิดที่ป่าแห่งนั้น
พ่อแม่ของข้า โดนฆ่าตายตั้งแต่ข้า อายุได้ 5 ขวบ
โจรป่า จับข้ามาเลี้ยงเอาไว้
และให้ข้าเป็นเมียของมัน นะจ้ะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : ฟังดูรันทด จนข้าอดสงสารเจ้าไม่ได้
ข้าชักจะรู้สึกถูกชะตาเข้าเจ้าแล้วละสิจ้ะ แม่หนู
เจ้าชื่อว่า กระไรรึจ้ะ


เพลินพิศจิตราลัย : ข้าชื่อว่า..แพรวพิศ...เจ้าคะ คุณท้าว
(นางจักต้องเปลี่ยนชื่อแซ่ เพื่อไม่ให้คนอื่น สืบถึงชาติดกำเนิดที่แท้จริง
เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยเล่าให้เจ้าพ่อค้าจอมคด
ก็หาได้มีผู้ใดในเมืองนี้ รู้อย่างแจ่มแจ้ง)


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : ข้าชื่อ โฉมอินทิรา นะจ้ะ..แม่หนูแพรวพิศ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : คุณท้าว...องค์เหนือหัว..พระองค์ทรงใจดี ไหมจ้ะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : แน่นอนจ่ะ..หากเจ้าไม่ทำให้พระองค์ ไม่พอพระทัยนะจ้ะ
ต่อไป ข้าจักค่อย ๆ สอนเจ้าเองว่า ในวังนี้มีกฎห้ามอันใดบ้าง
และสิ่งที่ควรปฏิบัติ นะจ้ะ
ข้าว่า...พระองค์คงจักไม่ทรงเอาโทษ คนน่ารักเยี่ยงเจ้า ได้ลงคอหรอกจ่ะ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : เจ้าคะ..คุณท้าว
ข้าจักเชื่อฟังท่านทุกประการ...โปรดสั่งสอนข้า..มาเถิดจ้ะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : ไปได้แล้ว..พวกเอ็งหน่ะ..
จงไปกราบเรียน ทางตำหนักใหญ่ ว่า
คืนนี้...เรือนนางห้าม พร้อมต้อนรับอาคันตุกะ แล้ว


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : คุณท้าว..เจ้าคะ
อาคันตุกะ..จากที่ใด เจ้าคะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : จากแดนไกล..หลายทิศหลายทางนะจ่ะ
ข้าสาธยายไม่ถูกดอกแม่หนู เจ้าต้องได้เห็นกับตา ตัวเอง
ว่า ผู้ชายหลากหลายเชื้อชาติ มีลักษณะเช่นไร
เพราะ อศิรสิงขรปุระ เป็นเมืองท่าชายทะเลที่ใหญ่มาก
จึงมีอาคันตุกะ แวะเวียนเข้ามาทำการค้ากับราชสำนักของเรานะจ่ะ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : อย่าบอกนะเจ้าคะ..ว่าข้าต้องรับรองแขกเมือง 


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : คืนนี้ ยังไม่..จ่ะ
แต่ต่ไปก็ไม่อาจแน่..55
อย่าได้ตื่นกลัวไปเลยจ่ะ..แม่หนู
นานวันไป..เจ้าก็จักชินไปเอง
อีกอย่าง..ค่ำคืนนี้ จักมีงานเลี้ยงฉลองอันยิ่งใหญ่


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : อย่างไร..เจ้าคะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : เพราะเราจักเปิดตัว..นางห้ามคนใหม่ ถึง 1000 นาง
พวกนาง..ล้วนมาจากทั่วสารทิศ
ตั้งแต่ไพร่..จนถึงลูกสาวของท้าวต่างเมือง
ที่ตกเป็นเมืองขึ้นของ อศิรสิงขรปุระ
นะสิจ้ะ..แม่หนู...
แต่พวกนางก็หาได้ มีความงามเทียบเท่าเจ้า ได้สักนางเดียว เลยนะจ้ะ
แม่หนูแพรวพิศ...555


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : ดูเหมือนว่า คุณท้าว..จักมีความสุข มากเลยนะเจ้าคะ




คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : ก็นานแล้วนี่จ้ะ...ที่ข้า จักได้เห็นสาวงาม ถึงพันคน
มารวมตัวกัน
ข้า..ในฐานะ แม่เล้า..เอ๊ย พี่เลี้ยงของพวกสาวงามทั้งหลาย 
ย่อมต้องมีความสุข ที่ได้เห็น พวกผู้ชายมีความสุข นี่จ้ะ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : ขอโทษนะเจ้าคะ..แล้วท่านไม่คิดว่า..
พวกนางจักยินยอม พร้อมใจกันทุกนาง บ้างหรือเจ้าคะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : แต่บ้างครั้ง ข้าก็รู้สึกอดสงสาร พวกนางที่ยอมตาย
มากกว่าที่จักต้องยอมเสียความสาว ให้กับชายเป็นร้อย นะสิจ้ะ


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : กระไรนะเจ้าคะ...เป็นร้อย ในเพลาเดียวกันนะหรือเจ้าคะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : ก็ไม่เชิงเสียทีเดีวนะจ้ะ
หากเจ้าบอกว่า ไม่ต้องการ...ก็ย่อมได้
แต่เท่าที่ข้าเห็น ๆ มานะ...พวกนาง ก็มักจะเคลิบเคลิ้ม ไปกับพวกผุ้ชาย
นะสิจ้ะ...555


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : มันน่าจะเรียกว่า..กามคณะ...เลยหรือเจ้าคะ


คุณท้าวฝ่ายใน โฉมอินทิรา : อุ๊ย..ตายแล้ว...บัดสี...ไม่พูดจ่ะ
มันคือ...ความบันเทิงอย่างหนึ่ง แห่งอศิรสิงขร...ต่างหากจ้ะ แม่หนู
555


(แพรวพิศ) เพลินพิศจิตราลัย : เจ้าคะ..ขอขอโทษ