Wednesday, October 12, 2011

หญิงงามเมือง (2)



2 ปี ต่อมา

เรื่องราวการสิ้นพระชนม์หมู่ของพระโอรส พระธิดา
ทำให้ท้าววิเรณสูรย์ มีพระบัญชาให้องค์รัชทายาท
กลับคืนสู่พระนคร..มาช่วยบริหารราชกิจ
เพราะพักหลัง องค์เหนือหัวทรงมิมีพระหทัย
ที่จะสามารถจดจ่ออยู่กับงานราชการได้เลย

แต่ละวันที่ผ่านไป
ทรงใช้เวลาหมกมุ่น อยู่กับความเศร้าโศกโทมนัส
จากเหตุการณ์ การสูญเสีย พระโอรส พระธิดา
ในคราวเดียวถึง 13 พระองค์

เหล่าขุนนางใหญ่น้อย จึงทูลเสนอให้ท้าววิเรณสูรย์
ทรงมีพระราชโองการ เรียกตัวองค์รัชทายาท..มโหทรอุทัยสวรรค์
ให้กลับมาช่วยงานราชกิจ


***


ตำหนักพระสนมเอก ทองจันทรา


พระสนมเอก ทองจันทรา : ลูกหญิง..เจ้าทราบความเรื่องการเสด็จนิวัติพระนคร
ขององค์รัชทายาท..มโหทรอุทัยสวรรค์ แล้วหรือไม่

เพลินพิศจิตราลัย : ลูกเพิ่งทราบความจากเสด็จแม่ นี่แหละ เพคะ..
นานมากแล้วนะเพคะ..ที่เสด็จพี่ใหญ่ เดินทางไปร่ำเรียนวิชากับท่านฤๅษี เทพมงคล

พระสนมเอก ทองจันทรา : อ่าว..แม่เฒ่า ท่านมาแล้วรึ

แม่เฒ่าอุไรวรรณา : เพคะ พระสนมเอก..

เพลินพิศจิตราลัย : แม่เฒ่า เจ้าขา..ข้า อยากเรียนวิชชามหาเสน่ห์มัดใจชาย เจ้าคะ

แม่เฒ่าอุไรวรรณา : พระธิดา..ทรงประสงค์สิ่งใด หม่อมชั้นรู้ดี เพคะ
วิชชาขั้นต้น..พระองค์จักต้อง เสด็จไปที่ป่าช้า
พระองค์จักทรงกล้า หรือไม่เพคะ..

พระสนมเอก ทองจันทรา : เจ้า..จักเรียนจริง ๆ หรือ..ลูกหญิงของแม่

เพลินพิศจิตราลัย : แน่นอน เพคะ..เสด็จแม่
ลูกพร้อมจะรับการถ่ายทอดวิชาจากแม่เฒ่า แล้วเจ้าคะ

แม่เฒ่าอุไรวรรณา : พระสนมเอก..โปรดวางพระทัย
หม่อมชั้นจะคุ้มครองพระธิดาให้ปลอดภัย เพคะ
อย่าได้ทรงเป็นกังวล แต่อย่างใดเลย
แล้ว พระนางจักรู้ว่า..พระธิดา ทรงห้าวหาญ เพียงใด

พระสนมเอก ทองจันทรา : แม่เฒ่า..ท่านอย่าลืมนะว่า..เพลินพิศ
เพิ่งจะมีอายุได้เพียง 12 ชันษา เท่านั้นนะจ้ะ

แม่เฒ่าอุไรวรรณา : พระนาง..โปรดเชื่อใจข้า..และพระธิดา เถิดเพคะ
วันข้างหน้า..พระธิดา จักเป็นที่พึ่งให้แก่พระนาง เป็นที่สุด เพคะ

พระสนมเอก ทองจันทรา : ข้า ชักกลัวว่า การที่ให้นาเรียนวิชชากับท่าน
จักเป็นการเร็วไป หรือไม่

แม่เฒ่าอุไรวรรณา :  หม่อมชั้น เข้าใจหัวอกของพระนาง ว่า
พระนาง ทรงห่วงความเก่งกล้าเกินวัย ของพระธิดา เพลินพิศ
แม่หม่อมชั้น กลับมองว่า พระธิดา ช่างฉลาด และสามารถเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี
ซึ่งที่ผ่านมา พระนาง ก็พอทรงทราบ อยู่บ้างนะเพคะ

พระสนมเอก ทองจันทรา : เรื่องราวในครานั้น..ข้า ยังรู้สึกสลดใจไม่หาย
แต่แปลก ที่ลูกหญิงกลับยังร่าเริง..และยิ่งกล้า กล้าจนข้า ชักหวั่นวิตก ขึ้นทุกที
แต่ถึงอย่างใด..สกุลของเรา ก็ล้วนแต่ต้องผ่านการทำลายชีวิต มาตั้งมากมาย
กว่าจะยืนหยัด มาจนถึงรุ่นของข้า..จริงไหม แม่เฒ่า

แม่เฒ่าอุไรวรรณา : จริง..เพคะ พระสนมเอก


***




ตำหนักพระอัครมเหสี ปัถมาพร



องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : เสด็จแม่ พระเจ้าข้า..ลูกกลับมาแล้ว

แม่นม สุนทราวรรณ : องค์รัชทายาท..ทรงเจริญพระชันษา จนหม่อมชั้น
จดจำมิแล้วแล้วนะเพคะ..

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : มโหทร..ลูกแม่ เจ้าไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อแล้วหรือยังจ้ะ

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : ยังเลยพระเจ้าข้า..
หม่อมชั้น ได้ยินว่า ยังทรงบรรทม อยู่เลยพระเจ้าข้า
หม่อมชั้น จึงไม่กล้ารบกวน พระองค์

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : เสด็จพ่อ ทรงเสียพระทัยอย่างมากมาย
ทรงเป็นเช่นนี้ มาเกือบ 2 ปี แล้วจ่ะ ลูกแม่

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
หม่อมชั้น กลับมาคราวนี้ คงจักต้องอยู่ยาว
เพราะพระอาจารย์ ก็บอกกับหม่อมชั้นว่า 
หม่อมชั้น เรียนจบวิชชาทุกประการแล้ว พระเจ้าข้า

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : จริงหรือจ้ะ..แม่ดีใจมากเลย
เจ้า รู้ไหมว่า..เจ้าคือความหวังเดียวของแม่ในตอนนี้ นะจ้ะ
มโหทร..คนดีของแม่
แคร่ก แคร่ก...

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
แต่..ดูเหมือนเสด็จแม่ จักทรงประชวร นะพระเจ้าข้า
แม่นม เจ้าทำไม ปล่อยให้เสด็จแม่..ประชวรได้เล่า
เสด็จแม่ ทรงเสวยพระโอสถ หรือยัง พระเจ้าข้า

แม่นม สุนทราวรรณ : นี่..พระโอสถ เพคะ รัชทายาท

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : 
ขอบใจ เจ้ามาก..

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : แหวะ..แคร่ก..อ่วก..

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : 
เสด็จแม่..เสด็จแม่..ทรงอาเจียนเป็นพระโลหิต
แม่นม..ไปตามหมอหลวง มาเร็วเข้าสิ

***


ครึ่งชั่วยาม ต่อมา


องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : 
ท่านหมอหลวง..เสด็จแม่ ทรงประชวรด้วยพระโรค อันใด หรือ
บอกข้า ได้หรือไม่

หมอหลวง อรุณฤทธา : อาญามิพ้นเกล้า..ขอกราบบังคมทูล ว่า
พระอัครมเหสี ทรงเป็นฝี ในพระอุระ พระเจ้าข้า

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : 
ช่างโหดร้ายเหลือเกิน สวรรค์..
ข้าเพิ่งจักกลับมาได้ไม่นาน..ก็เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเสียแล้ว
ท่านหมอ พอจักมีวิธีรักษา พระอาการให้หายขาด หรือไม่..

หมอหลวง อรุณฤทธา : หามิได้ พระเจ้าข้า..
ข้าพระองค์ พยายามรักษาพระอาการประชวร มาเกือบ 2 ปี แล้ว
แต่นับวัน พระอาการของพระนาง กลับมีแต่ทรุดลงเรื่อย ๆ
พระเจ้าข้า..องค์รัชทายาท

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : 
ข้า ขอบใจท่านมาก..ทีดูแล เสด็จแม่ของข้าเป็นอย่างดีที่สุด
แล้วท่านหมอหลวง คาดว่า พระนางจักมีพระชนม์ชีพ
อีกสักกี่เพลา มากน้อย

หมอหลวง อรุณฤทธา : จากที่ข้าพระองค์ เคยเห็นอาการของคนที่เป็นเช่นนี้
มักจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน หรือ มากที่สุด 1 ปี
พระเจ้าข้า..

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : จริงรึ..

แม่นม สุนทราวรรณ : องค์รัชทายาท อย่าทำพระพักตร์ เช่นนั้นสิเพคะ
พระมารดา จักต้องมีพระชนม์ที่ยาวนาน พอที่จะเห็นพระองค์
สืบต่อราชบัลลังก์ นะเพคะ..

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
เจ้าไม่ต้องพูดให้ข้า ดีใจ ไปหรอก แม่นม
ข้า เข้าใจว่าอะไรคือความจริง..
มีสิ่งหนึ่งที่ข้า อยากทำให้เสด็จแม่ก็คือ
พาพระนางเสด็จไปประพาสป่า นอกพระราชฐาน
พระนางเคยตรัสกับข้า ก่อนที่ข้าจักเดินทางไปร่ำเรียนวิชชา
กับพระอาจารย์
พระนางตรัสว่า..อยากทอดพระเนตร ชีวิตชาวบ้านป่า
ว่าจะมีสงบสุขเพียงใด


หมอหลวง อรุณฤทธา : พระองค์สามารถกราบบังคมทูล
ขอพระราชานุญาต จากองค์เหนือหัวสิ พระเจ้าข้า
อาจจะเป็นการดีกับพระอาการของ พระอัครมเหสี
ก็เป็นได้ พระเจ้าข้า...


***


ตำหนักใหญ่ 
ที่ประทับ ท้าววิเรณสูรย์ 


ท้าววิเรณสูรย์ : ได้สิ..หากคือ ความประสงค์ของลูก
แม่เจ้า นางก็บ่นว่าอยากจะให้พ่อพานางไปเที่ยวบ้าง
แต่พ่อกลับ บอกปัดนาง หลายครั้งหลายครา
เราไปกันหลาย ๆ คนน่าจะดี
ถือว่า เป็นการเลี้ยงรับขวัญเจ้า ไปเลยในคราเดียวกัน
ดีไหม ฮ่ะ..ลูกรักของพ่อ


องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
ขอบพระทัย..พระเจ้าข้า
ลูกจักนำความไปกราบทูล กับเสด็จแม่
ที่ตำหนักนะ พระเจ้าข้า


ท้าววิเรณสูรย์ : ได้สิ..อย่าลืมละ เดี๋ยวหกล้ม เหมือนสมัยเจ้ายังเยาว์นะ

อำมาตย์ นาฏโยดม :  ข้าพระองค์..ไม่เห็นพระองค์ ทรงพระสรวล
นานแล้วนะ พระเจ้าข้า..


ท้าววิเรณสูรย์ : จริงรึ..อาจจักเป็น ภาพลวงตา
ที่ข้า สร้างไว้ปลอบใจตนเอง ก็เป็นได้นะ ท่านอำมาตย์
ข้า ไม่อยากทำให้ลูกเมีย ต้องมาเศร้าใจ เพราะข้า อีกแล้ว
ข้า คงต้องลุกขึ้นมาทำตัวเองให้กระฉับกระเฉง เสียบ้าง
จริงไหม


อำมาตย์ นาฏโยดม : พระเจ้าข้า..
ข้าพระองค์ จักเป็นกำลังใจ ให้พระองค์ อีกแรง
นะ พระเจ้าข้า


****



ก่อนวันเสด็จประพาสต้น
ของท้าววิเรณสูรย์ และเชื้อพระวงศ์




ตำหนักพระสนมเอก ทองจันทรา


พระสนมเอก ทองจันทรา : ลูกหญิงของแม่..เจ้าทำไม ช่างงาม ถึงเพียงนี้
แม่ว่า..หากองค์รัชทายาท ได้เห็น คงจักตะลึงในความงามของเจ้าเป็นแน่

เพลินพิศจิตราลัย : จริงหรือเพคะ..เสด็จแม่
ตั้งแต่ เจ้าพี่ เสด็จนิวัติพระนคร ก็ไม่เคยเสด็จมาหาลูกเลยนะเพคะ

แม่นม ปิ่นสุมาลี : ก็คงเพราะ วุ่นวาย อยู่ที่ตำหนักกลาง นะสิเพคะ พระธิดา

เพลินพิศจิตราลัย : เสด็จแม่เพคะ..
ลูกอยากจะไปเยี่ยม พระอาการของพระอัครมเหสี สักหน่อยเพคะ
เสด็จแม่..เสด็จไปกับลูก ได้หรือไม่เพคะ

พระสนมเอก ทองจันทรา : ได้สิจ้ะ
แม่ก็อยากจะไปดูสารรูป..ของอัครมเหสี ว่านางใกล้จะตาย หรือยัง 555
แม่นม ให้นางข้าไท เตรียมเสลี่ยงให้ข้าสิ

แม่นม ปิ่นสุมาลี : เพคะ พระสนมเอก


***



ตำหนักพระอัครมเหสี ปัถมาพร


พระสนมเอก ทองจันทรา : ถวายพระพร เพคะ...พระอัครมเหสี
พระอาการเป็นเยี่ยงไรบ้างเพคะ

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : อ่อ..ข้า ขอบใจเจ้ามาก ที่ยังมีแก่ใจ มาเยี่ยมข้านะ

พระสนมเอก ทองจันทรา : พระนาง อย่าได้ตรัสเช่นนั้นเลยเพคะ
ก็เราครอบครัวเดียวกันนี่เพคะ..ก็ต้องห่วงใยกันเป็นเรื่องธรรมดา

เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น หาได่มาตัวเปล่านะเพคะ
นี่คือ..ผลไม้ต่าง ๆ..จากนอกวังหลวง นะเพคะ

แม่นม สุนทราวรรณ : คงจะหามี..พิษ..ไม่ นะเพคะ พระธิดา

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : อย่าเสียมารยาทสิ แม่นม
นางอุตส่าห์มีน้ำใจ..นำมาฝากข้า..

เพลินพิศจิตราลัย : ไม่มีแน่นอนจ้ะ..แม่นม
หรือแม่นม อยากได้ที่มีพิษ..ละจ้ะ

แม่นม สุนทราวรรณ : ขอบพระทัยเพคะ..
แต่ที่ตำหนักนี้..อาหารการกิน อุดมสมบูรณ์ดีอยู่ดอกเพคะ

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : พอได้แล้ว..แม่นม
เจ้านำผลไม้พวกนั้น ไปเก็บเถอะจ้ะ

***

พระสนมเอก ทองจันทรา :  องค์รัชทายาท..วันนี้ ยังมิได้มาเข้าเฝ้า พระนางหรือเพคะ

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : เจ้ามีอันใดกับลูกข้ารึ พระสนมเอก


พระสนมเอก ทองจันทรา : หามิได้เพคะ..หม่อมชั้น ก็หาได้เคย มีโอกาสไปไหว้สา
องค์รัชทายาทเลยหน่ะ เพคะ
หม่อมชั้น ก็คิดเอาเองว่า พระองค์อาจจะประทับที่ตำหนักนี้
จักได้ถือโอกาสถวายพระพร ไปในคราเดียวกันเลยหน่ะเพคะ


พระอัครมเหสี ปัถมาพร : ข้า ขอบใจแทนลูกของข้า นักนะ
แล้วพวกเจ้าสองแม่ลุก เตรียมการเดินทางดีแล้วใช่หรือไม่

พระสนมเอก ทองจันทรา : เพคะ..เพราะพระบารมีของพระนางโดยแท้
จึงทำให้ หม่อมชั้น สองแม่ลูก ได้ติดสอยไปรับใช้เบื้องพระยุคลบาท

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : เสด็จพี่ ก็อยากให้ครอบครัวของเรา
ได้ไปเปิดหูเปิดตา ดูโลกภายนอกบ้างนะสิจ้ะ


***



นายทวารบาน : องค์รัชทายาท...เสด็จ...



พระอัครมเหสี ปัถมาพร : ลูกข้า มาพอดี...

พระสนมเอก ทองจันทรา : ลูกหญิง ถวายบังคม องค์รัชทายาทสิจ้ะ

เพลินพิศจิตราลัย : หม่อมชั้น..ถวายพระพร..องค์รัชทายาท เพคะ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ..นะเพคะ

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
ไม่ต้องมากพิธี หรอก น้องหญิงเพลินพิศ
หม่อมชั้น..มาช้า
เพราะต้องไปดูความเรียบร้อยในขบวนเสด็จประพาส
หน่ะเพระเจ้าข้า..เสด็จแม่

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : หรือจ้ะ..

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
พระสนมเอก..ข้า ต้องขอโทษด้วยที่ ข้ายังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมท่านที่ตำหนัก


พระสนมเอก ทองจันทรา : หามิได้เพคะ...พระองค์ทรงมีราชกิจากมาย
อย่าได้ทรงเสียพระทัยไปเลยเพคะ
หากที่จริ หม่อมชั้น..และลูกหญิง ควรจักเป็นฝ่ายมาถวายพระพร 
พระองค์เสียมากกว่า หน่ะเพคะ


องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
ท่านจักเดินทางไปกับเราด้วยใช่หรือไม่


พระสนมเอก ทองจันทรา : เป็นแน่แท้ เพคะ..
นาน ๆ จะได้ออกจากวังหลวง ไปดูสิ่งแปลก ๆ 
หม่อมชั้น ก็ต้องขอตามเสด็จอยู่แล้วเพคะ


องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ :
หากมีสิ่งหนึ่งประการใด ผิดพลาด
ข้า ก็ขอโทษไว้ล่วงหน้า ด้วยนะ
เพราะนี่เป็นงานชิ้นแรกของข้า หน่ะ


พระสนมเอก ทองจันทรา : อย่าได้ทรงเป็นกังวลเลยเพคะ
ขอให้พระองค์ ดูแลพระมารดา ให้ดีก็เป็นพอแล้วเพคะ
หากมิมีสิ่งใดแล้ว
หม่อมชั้น และลูกหญิงขอทูลลา กลับตำหนักก่อนนะเพคะ


***

องค์รัชทายาท มโหทรอุทัยสวรรค์ : 
น้องหญิงเพลินพิศ..ยิ่งโต ยิ่งงามนักนะ  พระเจ้าข้า เสด็จแม่

แม่นม สุนทราวรรณ : ระวังองค์ให้ดีเถิดเพคะ 
พระองคือย่าได้คิดไปสุงสิงข้องแวะ กับพวกนางเลยนะเพคะ
ถือว่าเห็นแก่ หม่อมชั้น นะเพคะ

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : เจ้า อย่าไปฟังนางพูดเพ้อเจ้อนะลูก
มีแต่ข่าวลือ นะจ้ะ..แม่ก็ไม่เห็น พวกนางจะมีพิษสง อันใด

แม่นม สุนทราวรรณ : พวกที่เงียบ ๆ นี่แหะเพคะ พระอัครมหสี..
พวกนี่..เหมือนงูพิษ ที่หลบอยู่ในพงหญ้า..คอยเวลา พ่นพิษใส่เหยื่อ
โดยไม่ทันตั้งตัว

พระอัครมเหสี ปัถมาพร : เจ้าคงจะคิดมากไปแล้วละ..แม่นม

แม่นม สุนทราวรรณ : หากมิทรงเชื่อ..พระนางก็ทรงลองดู ต่อไปเรื่อย ๆ
เถิดเพคะ


No comments:

Post a Comment